
น้ำยาซักชุดชั้นในที่ผู้หญิงควรใส่ใจและไม่ควรมองข้าม
ชุดชั้นในนั้นอยู่ใกล้กับผิวส่วนที่บอบบางของผู้หญิงอย่างเรามากที่สุด หลายคนจึงให้ความสำคัญกับการเลือกชุดชั้นใน หากเลือกเนื้อผ้าที่หนาเกินไป หรือเลือกขนาดที่เล็กกว่าสรีระเกินไป อาจนำไปสู่การอับชื้น ซึ่งเป็นที่มาของอาการคันในร่มผ้า หรือผดผื่นแพ้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ แต่นี่เป็นเพียงสาเหตุเดียวที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้จริงหรือ? จริง ๆ แล้วสาเหตุของอาการเหล่านี้เกิดจากอะไรบ้าง เรามาหาคำตอบกันค่ะ
สาเหตุของอาการคันเกิดจากอะไรได้บ้าง

นอกจากการเลือกเนื้อผ้าที่หนาและขนาดที่ไม่เหมาะสมของชุดชั้นในแล้ว อย่างที่ทราบกันดีว่า เมืองไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่องอากาศที่ร้อนชื้นมากเพียงใด ดังนั้นคงไม่แปลกที่ผู้หญิงอย่างเราจะมีเหงื่อไคลมาสะสมบริเวณขอบเสื้อใน หรือกางเกงในให้รำคาญใจบ้าง ซึ่งการสะสมของคราบเหล่านี้อาจเป็นบ่อเกิดของเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราชั้นดี หากทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือไม่พิถีพิถันกับการเลือกน้ำยาซักชุดชั้นใน อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ และมีอาการคัน ลามไปสู่การติดเชื้อในช่องคลอดได้
การแพ้สารเคมีในเสื้อผ้า ชุดชั้นในเป็นอีกสาเหตุที่หลายคนอาจมองข้าม
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามนั่นก็คือ การแพ้สารเคมีบางชนิด ที่ปะปนมากับเสื้อผ้า หรือชุดชั้นในของเรา เช่น สารเคมีจากเนื้อผ้าบางชนิด สารเคมีจากการฟอกย้อม สารเคมีจากขอบยางยืดกางเกงใน หรือแม้กระทั่งน้ำหอมที่มาจากน้ำยาซักผ้า หรือแผ่นอนามัยที่สาว ๆ บางคนชอบใช้ แต่ใครจะนึกว่าน้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาซักชุดชั้นในที่เราใช้กันเป็นประจำ อาจเป็นอีกสาเหตุสำคัญของที่มาของอาการคัน ผื่นแพ้เหล่านี้ได้เหมือนกัน
สารเคมีในน้ำยาซักชุดชั้นใน ที่อาจทำร้ายเราโดยไม่รู้ตัว
ในน้ำยาซักผ้าโดยทั่วไป ประกอบไปด้วยสารทำความสะอาด ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังของเรา เช่น สารเคมีกลุ่ม LAS หรือ ลิเนียร์ อัลคิลเบนซีน ซัลโฟเนต (Linear alkyl benzene sulfonate) เป็นที่นิยมใช้เพราะมีราคาไม่สูง แต่ทำความสะอาดได้ดี สารอีกชนิดคือกลุ่มซัลเฟต ที่เราอาจรู้จักกันในชื่อ SLS หรือโซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium lauryl sulfate) และ SLES หรือ โซเดียมลอริลอีเทอร์ซัลเฟต (Sodium lauryl ether sulfate) สารตัวนี้นิยมใส่ในน้ำยาซักผ้าเช่นกัน เพราะเป็นสารลดแรงตึงผิว ช่วยเพิ่มฟองและช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกบนเสื้อผ้า ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนัง ทำให้ผิวแห้ง บางรายที่มีผิวแพ้ง่ายอาจทำให้คัน หรือผิวลอก เกิดผื่นแดงได้
สำหรับน้ำยาซักผ้าที่ใช้ซักคราบหนัก ผู้ผลิตมักใส่สารเคมีอีกตัวหนึ่งที่เรียกว่า เอทอกซีเลเต็ด แอลกอฮอล์ ( Ethoxylated alcohol) ซึ่งเป็นสารทำความสะอาดที่ให้ฟองน้อย แต่มีประสิทธิภาพการทำความสะอาดสูงโดยเฉพาะคราบไขมันที่มาจากเหงื่อได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สารเคมีเหล่านี้ นอกจากจะก่อให้เกิดการระคายเคืองแล้ว ขั้นตอนการผลิตอาจมีการปนเปื้อน สารปนเปื้อนจากปิโตรเคมี เช่น สาร 1,4-ไดออกเซน (1,4- dioxane) หรือ ฟอร์มัลดีไฮด์ที่เป็นสารก่อมะเร็งของเราอีกด้วย

สารเคมีอื่นๆในน้ำยาซักผ้า
นอกจากนี้ บางผลิตภัณฑ์อาจเพิ่มสารเรืองแสงเข้าไปอีก หรือที่เรียกว่า Optical Brightener เพื่อให้ผ้าดูขาวสะอาด แต่สารตัวนี้ถูกสร้างเพื่อให้ผู้ใช้เห็นสีอมฟ้าในเนื้อผ้า ให้ผ้าดูเหมือนใหม่ จึงอาจตกค้าง ระคายผิวและสะสมในร่างกายของเราได้
นอกจากนี้ในส่วนผสมของน้ำยาซักผ้าทั่ว ๆ ไปจะใส่น้ำหอมสังเคราะห์และสารกันเสีย ที่ใช้เพื่อเพิ่มความหอมและรักษาอายุของน้ำยาให้อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น สารเหล่านี้อาจเป็นสารระคายเคืองและอาจมีส่วนในการกระตุ้นภูมิ ซึ่งส่งผลเสียต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายในอนาคต
ถึงตอนนี้แล้วสาว ๆ คงคิดไม่ถึงใช่มั้ยล่ะคะ ว่าของใช้ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ที่เราคิดว่าช่วยขจัดสิ่งสกปรก จะมีสารเคมีอันตรายปะปนอยู่มากมายขนาดนี้ ดังนั้นการเลือกใช้น้ำยาซักชุดชั้นใน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากมีสารเหล่านี้ตกค้างในชุดชั้นในของเรา อาจเปิดโอกาสให้สารสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพตามมาได้
เลือกใช้น้ำยาซักชุดชั้นในอย่างไรให้รู้สึกปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจมากกว่าเดิม

สังเกตไหมว่าน้ำยาซักผ้าบางชนิด จะล้างออกยาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดสารตกค้างสะสมในชุดชั้นใน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ล้างออกง่าย ไม่มีสารเคมีอันตราย ที่นอกจากจะทำให้เนื้อผ้าและรูปทรงดี ๆ ของชุดชั้นในเสียหายแล้ว ยังทำร้ายผิวหนังส่วนที่บอบบางของเราอีกด้วย บางครั้งหลังซักเสร็จ ยังต้องยังเจอกับปัญหามือแห้ง มือคันอีก ดังนั้นการเลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่ผลิตจากธรรมชาติ จึงเป็นตัวเลือกที่หลายคนมองหา
หากสาว ๆ จะยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อพลิกดูส่วนผสมของน้ำยาซักผ้าว่าใส่สารอะไรบ้าง ก็จะยิ่งทำให้มั่นใจและตัดสินใจเลือกใช้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อย่างน้ำยาซักผ้าพิพเพอร์ สแตนดาร์ด ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้ำหมักสับปะรด ร่วมกับ สารอัลคิล โพลีไกลโคไซด์ (alkyl polyglycoside) หรือสารสกัดจากข้าวโพด แทนสารทำความสะอาดจากเคมี ที่ให้ประสิทธิภาพขจัดสิ่งสกปรกได้เทียบเท่าการใช้ผลิตภัณฑ์จากสารเคมี และใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติแทนน้ำหอมสังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าพิพเพอร์ สแตนดาร์ด ผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคืองโดยแพทย์ผิวหนัง จึงทั้งสะอาดและปลอดภัยเหมาะสำหรับเป็นผลิตภัณฑ์ซักชุดชั้นใน ที่ดีต่อใจและดีต่อผิวที่บอบบางของผู้หญิงทุกคน

สามารถหาซื้อน้ำยาซักผ้าพิพเพอร์ สแตนดาร์ด ได้ที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วไป หรือเว็บไซต์ www.pipperstandard.com
หรืออ่านรายละเอียดน้ำยาซักชุดชั้นใน น้ำยาซักผ้าพิพเพอร์ สแตนดาร์ด ได้ที่
https://www.pipperstandard.com/product/น้ำยาซักผ้าเลมอนกราส900/
ข้อมูลอ้างอิงจาก